EXIM BANK สานพลังพันธมิตร ส่ง “The S1 Project” และ “คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” เสริมแกร่ง SMEs

ปัญหาในเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่จะต้องสร้างผู้ประกอบการ SMEs เพิ่มจำนวนมากขึ้นเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐบาลมีเป้าหมายขยับสัดส่วนมูลค่ารวมของ SMEs ให้เพิ่มขึ้นเป็น 50% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 35% โดยเร็วที่สุด แม้สัดส่วนมูลค่าธุรกิจของ SMEs จะไม่สูงเท่าธุรกิจขนาดใหญ่ แต่กลับมีบทบาทสูงในด้านการจ้างงานที่มีการจ้างงานถึง 70% ของการจ้างงานทั้งประเทศ

หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนและผลักดัน SMEs พยายามบูรณาการความร่วมมือระหว่างกันเพื่อให้การส่งเสริม SMEs เป็นไปในทิศทางเดียว ได้รับการพัฒนาที่เหมาะสม สอดคล้องกับศักยภาพและขนาดของธุรกิจ รวมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งขึ้น โครงการความร่วมมือของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐในนามโครงการ “The S1 Project” จึงเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการสานพลังความร่วมมือพัฒนานวัตกรรมด้านบริการทางการเงิน ภายใต้แนวคิด “รวมช่องทาง รวมกระบวนการ และรวมโมเดลในการประเมินสินเชื่อเข้าด้วยกัน” เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการ โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดทำโครงการนำร่องและขยายพันธมิตรไปยังธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์)

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ความร่วมมือของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐในโครงการนี้เพื่อลดปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยและบุคคลธรรมดาที่ทำธุรกิจแต่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน เนื่องจากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยจะใช้มาตรฐานและขั้นตอนเดียวกันในการอำนวยสินเชื่อ ใช้ Credit Scoring มาตรฐานเดียวกันในการพิจารณา หากผู้ประกอบการเดินเข้าไปที่สาขาของ EXIM BANK หรือที่ บสย. และสถาบันการเงินที่ร่วมโครงการจะได้รับการปฏิบัติภายใต้มาตรฐานและเงื่อนไขการให้บริการแบบเดียวกัน โดยมี บสย. เป็นคนกลางที่จะค้ำประกันสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ร้องขอ

“หน่วยงานพันธมิตรทั้งหมดจะใช้ความเชี่ยวชาญของแต่ละแห่งออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการสนับสนุนพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับโครงการ‘The S1 Project’ โดยเฉพาะ ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุน ความช่วยเหลือเรื่องความรู้ในการทำธุรกิจ และต้องการให้สนับสนุน Supply Chain การส่งออกให้ได้รับสินเชื่อและการออกหนังสือค้ำประกันอย่างรวดเร็วและสอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจภายใต้การบริการผ่านช่องทางสาขาร่วม (Co-branch) และช่องทางออนไลน์” ดร.รักษ์ กล่าว

EXIM BANK และ บสย. ได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์นำร่องได้แก่ “สินเชื่อ One SMEs” เป็นสินเชื่อหมุนเวียนทั้งก่อนและหลังการส่งออก วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.25% ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดในระบบใช้เพียงหนังสือค้ำประกันจาก บสย. และผู้บริหารหลักเป็นผู้ค้ำประกัน สามารถสมัครใช้บริการผ่านเว็บไซต์ อนุมัติไว พร้อมรับสิทธิพิเศษส่วนลดดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี สำหรับ 6 เดือนแรก ซึ่งถ้าทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรับเพิ่มส่วนลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 3 ปี และยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกันจาก บสย. (สมัครและอนุมัติภายใน 31 ก.ค. 2566)

ดร.รักษ์ กล่าวว่า เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้รวมเอาโครงการ “คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” เข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “The S1 Project” ด้วย เนื่องจากปัญหาใหญ่ที่ทำให้ SMEs ไปต่อไม่ได้คือ ปัญหาหนี้สิน จึงดำเนินการจัดกิจกรรมการเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุนในรูปแบบของกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ CSR ที่จะนำความเชี่ยวชาญด้านการเงินมาช่วยเหลือผู้ประกอบการ ให้ความรู้ที่ถูกต้องในการทำธุรกิจ และการปรับโครงสร้างหนี้คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“โครงการ คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็กเป็นการให้คำปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาด้านหนี้สิน โดยธนาคารได้ร่วมกับพันธมิตรคือ ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs บสย. หรือ บสย. F.A. Center ให้คำปรึกษาแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ” ดร.รักษ์กล่าว

นายพิสิฏฐ์ เอี่ยมน้อย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคลเอ็กซ์โค่ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นรถยนต์ยี่ห้อ Motoc และน้ำมันหล่อลื่นเกียร์และเครื่องจักร Mitec สนใจเข้าร่วมโครงการ “The S1 Project” และ “คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” หลังจากได้รับข้อมูลจากโซเชียลมีเดียของ EXIM BANK โดยต้องการเงินทุนเพื่อขยายโรงงานและอยากได้คำปรึกษาด้านการส่งออก เพราะมีความต้องการขยายตลาดไปยังอาเซียน โดยขณะนี้มีการส่งออกไปตามจังหวัดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

“สิ่งที่คาดหวังจาก EXIM BANK คือ ความรู้ไปพัฒนาธุรกิจ เปิดบริษัทมา 4 ปี ขาดทุน 3 ปี กำไรปีที่ 4 จำนวน 1 ล้านบาท จึงสนใจลุยตลาดส่งออก เห็นมีโครงการ “The S1 Project” และ “คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” โดยความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับ บสย. เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ละองค์กรมีกฎระเบียบและวิธีการทำงานที่แตกต่าง การรวมกันทำให้มีมาตรฐานเดียว เสนอสิทธิประโยชน์ให้กับคนตัวเล็กได้มากขึ้น” นายพิสิฏฐ์ กล่าว

ในขณะที่นายธีรภัทร ประทุมราช ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท วินเซนต์ รับเบอร์ พาร์ทส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ เปิดเผยว่า ได้ข้อมูลจาก บสย. ให้เข้าร่วมในโครงการนี้ เพราะต้องการความช่วยเหลือจาก EXIM BANK ในด้านเงินทุนหมุนเวียน บริษัทไม่ได้ส่งออกโดยตรงแต่ส่งออกทางอ้อม มียอดการขายประมาณเดือนละ 1-2 ล้านบาท

นายธนวัฒน์ อภิมหามงคลชัย ทำธุรกิจร้านอาหารอาม่า ราดหน้าเส้นกรอบในตำนาน เปิดเผยว่า เป็นแฟนเพจของดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ได้ดู YouTube ที่ดร.รักษ์พูดถึงคนตัวเล็ก ก็เลยกล้าที่จะเดินทางมาที่ธนาคาร สิ่งที่ต้องการคือ เงินทุนประมาณ 500,000 บาท ไปใช้ขยายสาขา โดยตั้งเป้าจะขยายสาขาที่ไอคอนสยาม และที่ตลาดธนบุรี ตลาดนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเยอะ และมีความหวังว่าในอนาคตอยากจะขายแฟรนไชส์

“ผมฟัง ดร.รักษ์ พูดแล้วรู้สึกมีกำลังใจที่ธนาคารมีโครงการช่วยธุรกิจขนาดเล็กบ้าง และลงมาดูโครงการเอง ก็เลยตัดสินใจมา ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะ ดร.รักษ์ ให้เกียรติมาให้คำปรึกษาด้วยตัวเอง ซึ่งได้แนะนำแนวทางการทำแฟรนไชส์และรับเรื่องการขอเงินทุนไปส่งต่อให้ สิ่งที่ได้รับเกินความคาดหวังมาก ดีใจที่ตัดสินใจไม่ผิดที่เดินทางมาร่วมงาน อยากเชิญชวนคนตัวเล็กที่ยังลังเลให้มาเข้าร่วมโครงการนี้ ไม่ต้องกังวล ทุกคนที่นี่ให้การต้อนรับและดูแลอย่างดี” นายธนวัฒน์ กล่าว

โครงการ “The S1 Project” และ “คลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็ก” จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs อย่างต่อเนื่อง มีการตรวจสุขภาพทางการเงินและให้คำปรึกษาในการแก้ไขปัญหาธุรกิจอย่างครบวงจร อาทิ การปรับแผนธุรกิจ การบริหารจัดการทางการเงิน การแก้ไขหนี้เสีย และปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่มเปราะบาง ผู้ประกอบการรายย่อย บุคคลธรรมดาที่ทำธุรกิจ และลูกค้าธนาคารที่ประสบปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจ เพื่อเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน ให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างมั่นคงและเข้าสู่ Supply Chain การส่งออกได้คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทั้งนี้ โครงการคลินิก EXIM เพื่อคนตัวเล็กมีผู้ขอรับคำปรึกษาทางออนไลน์และออฟไลน์ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 5 เมษายน 2566 จำนวนกว่า 747 ราย สามารถแก้หนี้ได้ 139 ราย เติมทุนได้ 279 ราย เติมความรู้ได้ 282 ราย และอยู่ระหว่างการพิจารณาช่วยเหลือ 47 ราย ซึ่ง EXIM BANK และหน่วยงานพันธมิตรยังคงสานพลังบูรณาการหาแนวทางช่วยเหลือและผลักดันให้ธุรกิจ SMEs เพิ่มบทบาทในระบบเศรษฐกิจไทยให้มากขึ้น